ผลการดำเนินงาน

ทีวีโอ ให้ความสำคัญกับการพิจารณาคุณค่าและประเมินความสำเร็จของธุรกิจอย่างสมดุล ทั้งการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม (Environment) มีความรับผิดชอบต่อสังคม (Social) รวมทั้งการดำเนินธุรกิจให้เติบโตด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ (Governance) หรือ ESG

ความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจ

การกำกับดูแลกิจการ

ทีวีโอ ให้ความสำคัญและยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส และเป็นธรรม โดยในปี 2565 บริษัทมีการทบทวนนโยบายสำคัญหลายด้าน ได้แก่ คู่มือจรรยาบรรณธุรกิจ คู่มือมาตรการต่อต้านคอร์รัปชัน นโยบายการกำกับดูแลกิจการ ให้เป็นปัจจุบัน สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลกิจการที่ดี เหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง และเป็นแนวทางการปฏิบัติงานตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจสำหรับกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน

ปี 2565 ทีวีโอ ได้รับการประเมินคะแนน CG อยู่ในระดับดีเลิศ (Excellent) หรือ 5 ดาว จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) และได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 47 บริษัท Top Quartile ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ≥10,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าบริษัท มีพัฒนาการด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง

คู่มือจรรยาบรรณธุรกิจ ดาวน์โหลด
นโยบายการกำกับดูแลกิจการ ดาวน์โหลด

การต่อต้านการคอร์รัปชัน

ในปี 2565 บริษัทได้รับอนุมัติรับรองการต่ออายุการเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันครั้งที่ 1 จากคณะกรรมการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย หรือ CAC โดยการรับรองดังกล่าวจะมีอายุ 3 ปี อันแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการบริหารงานอย่างโปร่งใส ตามหลักบรรษัทภิบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย

บริษัทได้รับอนุมัติรับรองการต่ออายุการเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันครั้งที่ 1
จากคณะกรรมการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย หรือ CAC

นอกจากนี้ ยังมีการทบทวนนโยบายและปรับปรุง “คู่มือมาตรการต่อต้านคอร์รัปชัน” เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันยิ่งขึ้น และเพื่อให้มั่นใจว่าการให้/การรับ ของขวัญ ของชำร่วย และการรับรอง เป็นไปอย่างโปร่งใส โดยไม่ได้คาดหวังผลประโยชน์หรือสิ่งอื่นใดเป็นการตอบแทนที่อาจนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชัน บริษัทจึงกำหนด “แนวปฏิบัติในการให้/รับ ของขวัญ ของชำร่วย และการรับรอง” เพิ่มเติมเพื่อเป็นมาตรฐานที่มีความชัดเจนยิ่งขึ้น สอดคล้องกับคู่มือจรรยาบรรณธุรกิจและนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชันของบริษัท และเป็นแนวปฏิบัติให้บุคลากรของบริษัทนำไปปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด อีกทั้งขอความร่วมมือคู่ค้าธุรกิจปฏิบัติตามจรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจ นโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน และนโยบายงดรับของขวัญ โดยจัดทำ “จดหมายขอความร่วมมือ และของดรับของขวัญ” “จดหมายเชิญชวนคู่ค้าเข้าร่วมเป็นสมาชิกภาคีเครือข่ายแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC)” เพื่อให้พนักงานสื่อสารแก่คู่ค้าทางธุรกิจและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน และจัดทำ “แบบรายงานการรับของขวัญ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด” เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญกับนโยบายงดรับของขวัญ การต่อต้านคอร์รัปชัน และแสดงความโปร่งใสในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน โดยมีกระบวนการปฏิบัติงาน ดังนี้

การสื่อสารและให้ความรู้กับพนักงาน

ทีวีโอจัดการอบรมหลักสูตร “อัพเดท จรรยาบรรณธุรกิจและการต่อต้านคอร์รัปชัน” เพื่อกระตุ้นเตือนให้พนักงานเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องคอร์รัปชัน นโยบายและคู่มือมาตรการต่อต้านคอร์รัปชันของบริษัท รวมทั้งนโยบายงดการรับของขวัญ (No Gift Policy) เพื่อนำไปยึดถือปฏิบัติ และได้มีการเผยแพร่บนระบบสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ภายในองค์กร (Intranet และ e-mail) นอกจากนี้ได้มีเผยแพร่นโยบายและคู่มือมาตรการต่อต้านคอร์รัปชันบนเว็บไซต์ของบริษัท ประชาสัมพันธ์ให้ทราบทั่วทั้งองค์กร

การสื่อสารกับคู่ค้าหลักทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ทีวีโอได้ดำเนินการส่งจดหมายขอความร่วมมืองดรับของขวัญในเทศกาลปีใหม่ เพื่อเน้นย้ำให้คู่ค้าทราบว่าบริษัทให้ความสำคัญกับการต่อต้านคอร์รัปชัน พร้อมทั้งได้ประกาศนโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน และจรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจทางเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อเป็นแนวทางที่ดีในการปฏิบัติร่วมกัน รวมทั้งเชิญชวนคู่ค้าเข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันสังคมปลอดคอร์รัปชันให้ประเทศไทยไปด้วยกัน

การรับข้อร้องเรียน

เมื่อพบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหรือขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรม การกระทำที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย รวมทั้งการกระทำที่ขัดต่อจรรยาบรรณธุรกิจ ระเบียบบริษัท นโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี และนโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน ทีวีโอ มีช่องทางในการการแจ้งเบาะแสและรับข้อร้องเรียน (Whistle Blower) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียสามารถแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ และแจ้งเบาะแสการกระทำผิดกฎหมายได้โดยตรงต่อคณะกรรมการตรวจสอบ หรือ สำนักตรวจสอบภายใน ผ่านทางจดหมาย อีเมล์ หรือเว็บไซต์ของบริษัท https://www.tvothai.com/th/corporate-governance

คู่มือมาตรการต่อต้านคอร์รัปชัน ดาวน์โหลด
ระเบียบการร้องเรียน ดาวน์โหลด

การบริหารความเสี่ยงองค์กร

ทีวีโอ ตระหนักถึงความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ซึ่งมีผลกระทบต่อการบรรลุเป้าหมายขององค์กร จึงได้นำกรอบแนวทางระบบการควบคุมภายในตามมาตรฐานสากลของคณะกรรมการ COSO (The Committee of Sponsoring Organization of the Treadway Commission) ที่ได้มีการปรับปรุงพัฒนาให้ใช้ควบคู่กับกรอบแนวการบริหารความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กร ERM (Enterprise Risk Management) หรือที่เรียกว่า COSO-ERM Framework นำมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุมการจัดการความเสี่ยงทั้งในด้านกลยุทธ์ การดำเนินงาน การเงิน ความสอดคล้องกับกฎระเบียบปฏิบัติ รวมถึงความเสี่ยงจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล และความเสี่ยงใหม่ (Emerging Risks) เพื่อให้องค์กรมีการจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ และช่วยให้การดำเนินกลยุทธ์ขององค์กรเกิดประสิทธิผล

โครงสร้างการบริหารความเสี่ยง

ระดับนโยบาย

คณะกรรมการนโยบายสิ่งแวดล้อม สังคม บริหารความเสี่ยง และการกำกับการปฏิบัติกฎเกณฑ์ (ESRC) ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแผนการบริหารความเสี่ยง นโยบายสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม การปฏิบัติตามกฎหมาย และกำหนดโครงสร้างการบริหารความเสี่ยงให้ครอบคลุมทั้งองค์กร

ระดับจัดการ

คณะกรรมการ ESRC แต่งตั้ง คณะจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม บริหารความเสี่ยง และการกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ (Environmental, Social, Risk Management and Compliance Committee – Enterprise: ESRC-E) ทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ จากคณะกรรมการ ESRC นำไปสู่การปฏิบัติในระดับการจัดการ กำหนดกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงระดับองค์กรและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ กำหนดกระบวนการและมาตรการในการบริหารความเสี่ยง ติดตาม ทบทวนและรายงานต่อคณะกรรมการบริษัทและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ

ระดับปฏิบัติการ

คณะจัดการ ERSC-E แต่งตั้ง “คณะทำงานด้านการบริหารความเสี่ยง” ทำหน้าที่จัดทำแผนจัดการความเสี่ยง (Risk Management Plan) โดยวิเคราะห์ ประเมิน กำหนดวัตถุประสงค์และตัวชี้วัดความเสี่ยง (Key Risk Indicator : KRI) รวมถึงกำหนดมาตรการจัดการความเสี่ยง (Mitigation Plan) ให้ครอบคลุมทั่วทั้งองค์กร กำหนดระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk Appetite) และความเสี่ยงที่ทนรับได้ขององค์กร (Risk Tolerance) รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานต่อ ESRC-E เพื่อรับทราบ พิจารณา และให้ความเห็น เพื่อให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานเป็นไปตามแผนฯ อย่างมีประสิทธิผล


ทั้งนี้ ทีวีโอ เผยแพร่รายละเอียดของปัจจัยเสี่ยงด้านต่างๆ ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น และแนวทางบริหารจัดการที่แบบ 56-1 One Report ประจำปี 2565 ส่วนที่ 1 หัวข้อ 2 การบริหารจัดการความเสี่ยง หน้า 39-45

การบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่าและจรรยาบรรณคู่ค้า

ทีวีโอ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้การดำเนินงานเกิดความยั่งยืน โดยมีการบริหารความเสี่ยงที่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจส่งผลต่อธุรกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี

  1. การจัดซื้อจัดหา
    การจัดซื้อจัดหา โดยเฉพาะวัตถุดิบหลักคือ ถั่วเหลือง ทั้งในประเทศและการนำเข้าถั่วเหลืองจากต่างประเทศ ต้องพิจารณาตั้งแต่แหล่งผลิตวัตถุดิบต้นทาง ไม่มีการใช้แรงงานผิดกฎหมาย ไม่บุกรุกทำลายป่า ขณะที่แหล่งเพาะปลูกในประเทศมีการจัดทำโครงการส่งเสริมผลผลิตต่อไร่ให้แก่เกษตรกร เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน ควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงด้านคุณภาพและความผันผวนของราคาวัตถุดิบ รวมทั้งสินค้าและบริการอื่นๆ มีการนำปัจจัยทางด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำดูแลกิจการที่ดี) เข้ามาใช้ในการพิจารณาคัดเลือกคู่ค้าด้วย
  2. การผลิต
    การผลิต ให้ความสำคัญและใส่ใจกับทุกขั้นตอนการผลิต โดยนำเทคโนโลยีใหม่ เข้ามาพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ มีมาตรการรองรับความปลอดภัยของกระบวนการผลิตอย่างสูงสุด นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงต่อผลกระทบจากกระบวนการผลิตที่อาจส่งผลต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยจัดตั้งทีมชุมชนสัมพันธ์ เพื่อเฝ้าติดตามผลกระทบ เยียวยา หาแนวทางในการป้องกันแก้ไข และช่วยสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนรอบข้างโรงงาน
  3. การตลาดและการขาย
    การวางแผนการตลาดและการขายสำหรับลูกค้า ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์วัตถุดิบอาหารสัตว์และกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันพืชบริโภค มุ่งเน้นตอบสนองความต้องการของผลิตภัณฑ์ในประเทศเป็นหลัก ขณะเดียวกันก็ดำเนินการขยายตลาดใหม่ไปยังประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค โดยยึดหลักคุณภาพ โภชนาการ และมาตรฐาน ภายใต้การแข่งขันด้านราคาอย่างเป็นธรรมและเหมาะสม
  4. การกระจายสินค้า
    ทีวีโอ มีระบบบริหารจัดการการกระจายสินค้า เพื่อส่งมอบสินค้าให้ถึงมือลูกค้าและผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว ตรงต่อเวลา ทั้งในและต่างประเทศ
  5. ลูกค้า ผู้บริโภค
    ทีวีโอ ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เทรนด์การบริโภคในปัจจุบัน โดยมีการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความผูกพันแก่ผู้บริโภค ซึ่งช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโภชนาการที่ดี ผ่านผลิตภัณฑ์ของบริษัท และยังส่งเสริมให้ตราสินค้าของทีวีโอเป็นที่จดจำแก่ลูกค้า ผู้บริโภคอยู่เสมอ

การจัดหาอย่างยั่งยืน

ทีวีโอได้สื่อสารกับคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศให้รับทราบ “จรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจ” หรือ “Supplier Code of Conduct” ซึ่งครอบคลุมประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น รวมทั้งการเคารพและการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจร่วมกัน และมั่นใจได้ว่ากระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัทและคู่ค้าธุรกิจ มีความสอดคล้องกันในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ทีวีโอมุ่งหวังว่าจะช่วยผลักดันให้คู่ค้าธุรกิจมีการดำเนินงานอย่างมีจริยธรรม เคารพต่อสิทธิมนุษยชน รับผิดชอบต่อสังคมด้วยหลักธรรมาภิบาลที่ดี มีการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย รวมถึงให้ความสำคัญต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อการพัฒนาศักยภาพร่วมกัน ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันในอนาคต โดยเผยแพร่นโยบายดังกล่าวผ่านช่องทางเว็บไซต์ของบริษัท https://www.tvothai.com/th/corporate-governance เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มรับทราบ ทั้งนี้ ทีวีโอมุ่งหวังและพร้อมให้การสนับสนุนคู่ค้าธุรกิจในการนำแนวทางต่างๆ ตามจรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจ ไปปฏิบัติหรือประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ในปี 2565 ทีวีโอบรรจุประเด็นด้าน ESG ไว้เป็นหัวข้อหลักในแบบฟอร์มสำหรับการคัดกรองและตรวจประเมินคู่ค้า ผ่านวิธีการตอบแบบสอบถาม (Self-Declaration) หรือการแสดงเอกสารหลักฐานยืนยัน อาทิ การจ้างงานและการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรมซึ่งครอบคลุมเรื่องแรงงานเด็ก แรงงานบังคับ, การจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม, การกำกับดูแลกิจการที่ดีและการต่อต้านคอร์รัปชัน และมาตรฐานระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมหรือความปลอดภัย เป็นต้น โดยจัดส่งให้กับคู่ค้าใหม่ทุกรายที่มาขึ้นทะเบียนในปีนี้ ดำเนินการผ่านแบบประเมินตนเองและจะทยอยทบทวนคู่ค้ารายเดิมทุก 2 ปี เพื่อให้มั่นใจว่าคู่ค้าของบริษัทผ่านการประเมินอย่างรอบด้านทั้งด้าน ESG และด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้อง

ทีวีโอ ตั้งเป้าหมายร้อยละ 100 ของคู่ค้าหลักรับทราบและลงนามตอบรับในจรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจ ครบถ้วนภายในปี 2567
จรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจ ดาวน์โหลด

การจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน

ถั่วเหลืองถือเป็นวัตถุดิบหลักที่สำคัญของบริษัท ทีวีโอ มีการจัดซื้อเมล็ดถั่วเหลืองที่มีคุณภาพดีจากเกษตรกรในประเทศ ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้นได้อีกทางหนึ่ง โดยมีแหล่งเพาะปลูกหลักอยู่ที่จังหวััดสุุโขทััย กำแพงเพชร อุุตรดิิตถ์์ เพชรบููรณ์์ เชีียงใหม่่ และขอนแก่น เป็นต้้น อย่างไรก็ตาม การปลูกถั่วเหลืองในประเทศมีแนวโน้มลดลง สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากผลผลิตของเกษตรกรที่ปลูกโดยทั่วไปยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก ราว 250 – 270 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งส่งผลทำให้ต้นทุนการเพาะปลูกสูง เกษตรกรมีกำไรน้อย หรือไม่มีกำไรจากการปลูก จึงทยอยเลิกปลูกถั่วเหลืองและหันไปปลูกพืชอื่นทดแทน

ในช่วงปลายปี 2565 ทีวีโอจึงริเริ่มโครงการทดลองปลูกถั่วเหลืองแผนใหม่ในสายพันธุ์ต่างๆ เพื่อให้ได้ผลผลิตต่อไร่ที่สูงขึ้น ด้วยการปรับธาตุอาหารบำรุงดิน และเปลี่ยนวิธีการปลูกแบบเว้นระยะเพื่อให้น้ำแก่ต้นถั่วเหลืองอย่างเพียงพอ โดยจัดทำแปลงทดลองในอำเภอแม่แตง และแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โครงการทดลองปลูกนี้จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงกลางปี 2566 ผลผลิตที่ได้จากโครงการนี้ จะเป็นของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อเก็บไว้ใช้เป็นเมล็ดพันธุ์สำหรับเพาะปลูกในรอบต่อไป ทีวีโอมุ่งหวังว่าโครงการนี้จะมีส่วนช่วยส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตถั่วเหลืองในประเทศ เพิ่มแรงจูงใจในการปลูกถั่วเหลืองให้แก่เกษตรกร ให้มีต้นทุนการเพาะปลูกลดลง ได้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพในระยะยาวต่อไป

ด้านการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืืองจากต่่างประเทศที่เป็นแหล่งเพาะปลูกสำคัญของโลก ได้แก่ บราซิล สหรัฐอเมริกา และอาร์เจนตินา ในปีที่ผ่านมาการระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงแพร่กระจายไปทั่วโลก บริษัทมีการเฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของประเทศคู่ค้าหลักทั้ง 3 แหล่งอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมตลอดทั้งกระบวนการผลิตและการขนส่ง โดยมีการวางแผนการจัดซื้อวัตถุดิบและการประเมินความเสี่ยงในทุกด้าน เพื่อให้วัตถุดิบหลักถูกส่งมอบและนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สู่ผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ทีวีโอไม่สามารถเดินทางไปลงพื้นที่สำรวจในแหล่งเพาะปลูกเมล็ดถั่วเหลืองยังประเทศผู้ผลิตต้นทาง ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญในการทวนสอบคู่ค้าผู้ส่งมอบวัตถุดิบของเราได้ เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ทีวีโอยังคงทำงานและสื่อสารกับคู่ค้าอย่างใกล้ชิด นำข้อมูลต่างๆ มาวางแผนประเมินความสมดุลระหว่างอุปสงค์กับอุปทานของวัตถุดิบในแต่ละแหล่ง และคาดการณ์ปัจจัยแวดล้อมที่อาจส่งผลกระทบต่อการจัดหาวัตถุดิบ เช่น ผลกระทบของโรคระบาดต่อการขนส่งสินค้า การเปลี่ยนแปลงฤดูกาล คุณภาพและราคา เป็นต้น รวมถึงเริ่มนำกระบวนการประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของคู่ค้า เข้ามาใช้ในกระบวนการคัดสรรคู่ค้าที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบ เพื่อให้มั่นใจว่าวัตถุดิบที่ได้มาเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี ไม่สร้างผลกระทบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม ไม่บุกรุกทำลายป่า ไม่ใช้แรงงานเด็ก ไม่ผิดหลักสิทธิมนุษยชน เป็นต้น โดยทีวีโอเข้าร่วมเป็นสมาชิก Sedex เกี่ยวกับการตรวจสอบหลักจริยธรรมค้าขาย และเป็นสมาชิก Round Table on Responsible Soy Association (RTRS)+

ทีวีโอคำนึงถึงปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อสภาพคล่องและการบริหารจัดการวงจรเงินสดของพันธมิตรทางธุรกิจ โดยบริษัทมีนโยบายการกำหนดระยะเวลา Credit Term ภายใน 30-60 วัน

อย่างไรก็ตามระยะเวลาตามเงื่อนไขการชำระเงินดังกล่าว จะขึ้นอยู่กับคู่ค้าของบริษัทตลอดจนการพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจร่วมกัน รอบการหมุนของสินค้า คุณภาพมาตรฐานสินค้าและบริการ โดยบริษัทจะยึดหลักความเป็นธรรมต่อคู่ค้าทุกราย

ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม

การดำเนินงานในมิติสิ่งแวดล้อม ทีวีโอตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันและรับผิดชอบต่อผลกระทบที่อาจเกิดจากการดำเนินงานทั้งภายในและภายนอกสถานประกอบการ จึงได้กำหนด “นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม” เผยแพร่บนเว็บไซต์ของบริษัท https://www.tvothai.com/th/corporate-governance เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนากระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมทั้งมุ่งหวังให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด บริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ รวมถึงมีส่วนช่วยปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม อยู่ภายใต้ “คณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม” หรือ “คณะ ES” จัดตั้งขึ้นจากตัวแทนในแผนกต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการทำงานในทุกด้าน ทั้งการใช้พลังงาน การจัดการน้ำ ของเสียจากกระบวนการผลิต และข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เพื่อนำไปตั้งเป้าหมายการลดการใช้ทรัพยากรทั้งระยะสั้นและระยะยาว ช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากกระบวนการผลิต สามารถแก้ไขปัญหาและข้อร้องเรียนจากผลกระทบต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที และรายงานการดำเนินงานต่อคณะจัดการ ESRC-E รับทราบ

นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ดาวน์โหลด

การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ทีวีโอ ให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยการลดการใช้พลังงานต่อหน่วยการผลิต ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าสูงสุด พร้อมทั้งจัดหาแหล่งพลังงานสะอาดมาใช้ในกระบวนการผลิตให้มากขึ้น เพื่อช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ปี 2565 ทีวีโอ มีการดำเนินการที่สำคัญเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนในระดับองค์กร โดยรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตและการทำงานทุกด้าน เข้าสู่กระบวนการทวนสอบ จนได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ระดับองค์กร จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. เพื่อเป็นข้อมูลตั้งต้นไปสู่การปรับปรุงกระบวนการ พัฒนาเทคโนโลยี หาแนวทางในการใช้ทรัพยากรทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การจัดทำแผนการดำเนินงานที่จะลดการปลดปล่อยคาร์บอนในกระบวนการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย “ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ” ภายในปี 2588 และ “การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission)” ภายในปี 2603 (ใน Scope 1 & 2)

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการขอรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ 19 รายการ พร้อมตั้งเป้าหมาย “ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ระดับผลิตภัณฑ์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 2” ในผลิตภัณฑ์หลัก น้ำมันถั่วเหลือง ตรา องุ่น ขนาด 1 ลิตร ภายในปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วยตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่ง กระบวนการผลิต การใช้งาน และการจัดการของเสียหลังหมดอายุการใช้งาน

ทีวีโอ ตั้งเป้าหมายมุ่งสู่ “ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ” ในปี 2588 และ “การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission)” ภายในปี 2603

ทั้งนี้ ทีวีโอ ยังมีแผนการติดตั้ง Solar Rooftop เพิ่มเติม ตั้งแต่ปี 2565 (ยังไม่แล้วเสร็จ) ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2571 อีกหลายโครงการ ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในโรงงานเพิ่มขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเป้าหมายการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ระดับองค์กรต่อไป

ทีวีโอ ตั้งเป้าหมาย “ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ระดับผลิตภัณฑ์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 2” หรือได้รับฉลากลดคาร์บอนในผลิตภัณฑ์หลัก น้ำมันถั่วเหลือง ตรา องุ่น ขนาด 1 ลิตร ภายในปี 2567

การใช้ทรัพยากรทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ทีวีโอกำหนดให้การใช้ทรัพยากรทุกด้าน ทั้งไฟฟ้า ไอน้ำ แกลบ น้ำ รวมถึงของเสียจากกระบวนการผลิต ต้องสนับสนุนเป้าหมายการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ระดับองค์กรและระดับผลิตภัณฑ์ โดยนำ “นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม” และ “นโยบายพลังงาน” มาเป็นแนวทางการดำเนินงานเพื่อให้การใช้พลังงานและทรัพยากรทุกด้านมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ก่อให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรขององค์กรอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมกับการเติบโตทางธุรกิจ และถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ ทั้งนี้ การใช้ทรัพยากรทุกด้านอย่างรู้คุณค่า ต้องเกิดจากการร่วมมือกันของทุกฝ่ายในองค์กร ร่วมกันสร้างการตระหนักรู้แก่พนักงานให้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม

นโยบายพลังงาน ดาวน์โหลด
ทีวีโอ มีระบบการจัดการด้านพลังงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 50001 ระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ISO 14001 (โรงงาน 1) และได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 3 (Green Industry)”

การใช้น้ำ

“น้ำ” นับเป็นทรัพยากรที่สำคัญด้านหนึ่งในกระบวนการผลิต ในปี 2565 ทีวีโอมีแนวทางในการบริหารจัดการการใช้น้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และลดการใช้น้ำต่อหน่วยการผลิตด้วยหลักการ 3Rs ประกอบด้วย การลดการใช้น้ำ (Reduce) การนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) และการนำน้ำผ่านกระบวนการเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ซึ่งการดำเนินการในหลายส่วน สนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าทั้งด้านการใช้น้ำและลดการใช้พลังงาน

นอกจากนี้ ในปี 2565 ทีวีโอมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำทิ้งให้เป็นไปตามค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยควบคู่ไปกับการนำน้ำทิ้งจากกระบวนการผลิตไปผ่านกระบวนการและนำกลับมาใช้ใหม่ โดยควบคุมคุณภาพให้เหมาะสมสำหรับการนำไปใช้ประโยชน์ในขั้นต่อไป

ทั้งนี้ ทีวีโอยังคงมีแผนการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ อาทิ การตรวจสอบคุณภาพน้ำเพื่อลดปริมาณน้ำทิ้งทั้งจากกระบวนการผลิต ส่วนสนับสนุนการผลิต และน้ำทิ้งทั่วไป การตรวจสอบคุณภาพของน้ำทิ้งจากการถ่ายตะกอนและน้ำ Regenerate เพื่อนำไปใช้ผสมกับขี้เถ้าแกลบ การศึกษาแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งเครื่องระเหย (Evaporator) เพิ่มเติม และอยู่ระหว่างดำเนินการเก็บข้อมูลสำหรับจัดทำระบบท่อน้ำใช้ เพื่อเป็นฐานในการบริหารจัดการน้ำทั้งกระบวนการผลิต ตามหลักเกณฑ์การใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะ (พ.ร.บ. ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561)

นโยบายการบริหารจัดการน้ำระดับองค์กร ดาวน์โหลด
ทีวีโอตั้งเป้าหมายลดการใช้น้ำจากกระบวนการผลิตให้เหลือเพียง 0.71 ลูกบาศก์เมตรต่อตันเมล็ดถั่วภายในปี 2567

การลดของเสียจากกระบวนการผลิต

ในปี 2565 ปี ทีวีโอยังคงดำเนินการตามเป้าหมาย “ลดขยะและของเสียจากกระบวนการผลิตจากปี 2562 ลงร้อยละ 8 ภายในปี 2567” และเป้าหมาย “ปริมาณขยะและของเสียที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ต่อของเสียทั้งหมดไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ภายในปี 2565” ของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตจะถูกจัดแบ่งเป็นหมวดหมู่และบันทึกจำนวนหรือปริมาณอย่างละเอียด จากนั้นจะถูกนำไปใช้คัดแยกตามแนวทางการจัดการของเสียตามความเหมาะสม เพื่อให้ทรัพยากรถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า โดยคำนึงเสมอว่าของเสียที่เกิดขึ้นส่งผลต่อรายได้และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ทีวีโอจึงเห็นความสำคัญตั้งแต่การลดของเสียจากแหล่งกำเนิดตลอดจนนำของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่อีกครั้ง

ในปีนี้ปริมาณของเสียจากกระบวนการผลิตรวม 57,542 ตัน สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ตามแนวทางการจัดการ ได้แก่ 1) ของเสียที่ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์รวม 53,962 ตัน ประกอบด้วยของเสียอันตราย 31 ตัน และของเสียที่ไม่เป็นอันตราย 53,931 ตัน 2) ของเสียที่ถูกนำไปกำจัดตามระเบียบ ขั้นตอน และหลักวิชาการของกรมโรงงาน รวม 3,580 ตัน ไม่มีของเสียที่ต้องนำไปจัดการด้วยการเผาทำลาย ซึ่งเป็นการกำจัดของเสียด้วยวิธีเผาใช้อุณหภูมิความร้อนสูงในเตาระบบปิด แต่มีข้อเสียคือสิ้นเปลืองพลังงาน รวมทั้งไม่มีของเสียที่ต้องนำจัดการด้วยการฝังกลบ ซึ่งเป็นวิธีการที่สร้างผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม และเป็นไปตามเป้าหมายการลดของเสียกากอุตสาหกรรมสู่หลุมฝังกลบให้เป็นศูนย์ หรือ Zero Waste to Landfill ส่งผลให้สัดส่วนของเสียที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปริมาณของเสียทั้งหมด จากร้อยละ 91 ในปี 2564 เพิ่มเป็นร้อยละ 94 ในปี 2565

“ทีวีโอตั้งเป้าหมายการลดของเสียจากกระบวนการผลิต โดยปริมาณของเสียที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ต่อของเสียทั้งหมด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ในปี 2570”

การจัดการผลกระทบ และข้อร้องเรียน

ทีวีโอ ให้ความสำคัญกับการจัดการผลกระทบที่เกิดจากกระบวนการผลิต ตลอดจนข้อร้องเรียนที่ได้รับการแจ้งเข้ามายังบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ พร้อมจัดตั้ง “ทีมงานแผนกชุมชนสัมพันธ์” ทำหน้าที่ประสานความร่วมมือกับชุมชนรอบข้างอย่างใกล้ชิด เข้าพบปะเยี่ยมเยือนชุมชนในแต่ละครัวเรือนเพื่อรับฟังและดำเนินการเยียวยาข้อร้องเรียนต่างๆ ในเบื้องต้นก่อนประสานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาในแต่ละด้านเพื่อลดผลกระทบจากกระบวนการผลิตให้ได้มากที่สุด รวมทั้งสื่อสารกลับไปยังชุมชนเพื่อรับทราบถึงผลการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขต่างๆ ของทีวีโอต่อไป

การดำเนินการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน

  • แผนงานระยะสั้น โดยเริ่มต้นจากการหาสาเหตุของผลกระทบ ดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ประเมินผลและติดตาม ตลอดจนมีการสุ่มตรวจผลการปรับปรุงแก้ไขเป็นระยะ และสื่อสารต่อชุมชนเพื่อรับทราบเป็นระยะ
  • แผนงานระยะยาว ประกอบด้วยการจัดทำแผนภูมิชุมชนรอบโรงงาน เพื่อดำเนินการป้องกันและลดผลกระทบในอนาคตให้สอดคล้องฤดูกาลและทิศทางลม รวมถึงการวางแผนการซ่อมบำรุงและจัดอบรมเรื่องขั้นตอนการปฏิบัติงานให้มีความรัดกุมมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบจากกระบวนการผลิตขึ้นมาอีกในอนาคต

ในปี 2565 ไม่พบว่ามีข้อร้องเรียนจากชุมชนเรื่องผลกระทบจากกระบวนการผลิตที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือการร้องเรียนไปยังหน่วยงานราชการ อย่างไรก็ตาม ทีมงานแผนกชุมชนสัมพันธ์ยังคงติดต่อสื่อสารและลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากชุมชนอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบติดตามผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งแจ้งความคืบหน้าการปรับปรุงการดำเนินงานให้กับทางชุมชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง

ความยั่งยืนด้านสังคม

การเคารพสิทธิมนุษยชน

ทีวีโอ ยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน เป็นหลักปฏิบัติร่วมกันในการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุมผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม อาทิ พนักงาน ชุมชน สังคม ลูกค้า และคู่ค้าทางธุรกิจในห่วงโซ่อุปทาน โดยประกาศ “นโยบายด้านสิทธิมนุษยชน” ให้พนักงานยึดถือเป็นแนวปฏิบัติทั้งต่อพนักงานด้วยกันและต่อผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งยังกำหนด “นโยบายการควบคุมการใช้แรงงานเด็กและการเยียวยากรณีพบการจ้างแรงงานเด็ก” ไม่จ้างแรงงานเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ครอบคลุมไปถึงผู้รับเหมาและบุคคลภายนอกที่เข้ามาทำงานกับบริษัท ไม่ใช้แรงงานเด็ก และมีมาตรการควบคุมดูแลอย่างเคร่งครัด

นโยบายด้านสิทธิมนุษยชน ดาวน์โหลด
การตรวจสอบสิทธิมนุษยชนรอบด้าน ดาวน์โหลด

ทีวีโอยังส่งเสริมความเข้าใจหลักสิทธิมนุษยชนให้แก่บุคลากรขององค์กร โดยเผยแพร่นโยบายดังกล่าวบนเว็บไซต์ https://www.tvothai.com/th/corporate-governance รวมถึงเปิดช่องทางในการแจ้งข้อร้องเรียนสำหรับการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน มีกระบวนการตรวจสอบข้อร้องเรียน มาตรการบรรเทาแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้น และชดใช้เยียวยาอย่างเป็นธรรมในกรณีที่เกิดความเสียหาย

การดูแลพนักงาน

ปี 2565 ทีวีโอ ยังคงมีการบังคับใช้ ระเบียบปฏิบัติงานด้านบุคลากร ที่สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดเสมอมา ทั้งยังมีการปรับปรุงเปลี่ยนและแปลงนโยบายต่างๆ เพื่อให้ทันต่อทุกสถานการณ์ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงดำเนินอยู่ ทีวีโอไม่มีนโยบายปรับลดพนักงาน ลดเงินเดือน หรือหยุดดำเนินการในภาวะวิกฤติ เพราะคำนึงเสมอว่า “บุคลากร” ถือเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่าขององค์กรที่มีส่วนช่วยให้องค์กรพัฒนาและเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน ทีวีโอจึงมุ่งมั่น ดูแลพนักงานให้มีความปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีไปพร้อมๆ กัน

พนักงานของทีวีโอ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,298 คน แบ่งเป็นพนักงานสำนักงานใหญ่ 154 คน และพนักงานโรงงาน 1,144 คน ผลตอบแทนรวมของพนักงานในรูปเงินเดือน โบนัส และเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และผลประโยชน์อื่นๆ ของพนักงาน เปิดเผยไว้ในแบบ 56-1 One Report รายงานประจำปี 2565

การส่งเสริมศักยภาพบุคลากร

ทีวีโอ เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงาน จึงดำเนินการให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคล สำรวจความต้องการฝึกอบรมของพนักงานในหลักสูตรที่เกี่ยวข้องจากแต่ละส่วนงาน โดยมีการจัดการฝึกอบรมให้แก่พนักงานทุกคนอยู่เสมอ เพื่อให้พนักงานทุกคนได้รับโอกาสในการพัฒนาตนเองอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสก้าวหน้าทางอาชีพได้อย่างมั่นคง

เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2565 เริ่มคลี่คลาย ทำให้บริษัทสามารถจัดการฝึกอบรมแก่พนักงานแบบ Onsite ได้มากขึ้น นอกเหนือจากการฝึกอบรมความรู้เฉพาะด้านในสายงานที่เกี่ยวข้องของแต่ละแผนกแล้ว ยังมีการอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ Digital Transformation ด้วยการปรับการทำงานให้อยู่บนระบบเดียวกันทั้งองค์กร (Workflow) ช่วยให้การส่งเอกสาร ข้อมูล ไปจนถึงการอนุมัติต่างๆ เป็นไปด้วยความคล่องตัว ลดขั้นตอนการดำเนินงาน ลดเอกสารสูญหาย ลดการใช้กระดาษและวัสดุสิ้นเปลือง (Paperless) ซึ่งจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุนและทรัพยากรขององค์กรได้ในระยะยาว ทำให้ในภาพรวมพนักงานได้รับการพัฒนาฝึกอบรม คิดเป็นร้อยละ 85.82 ของการฝึกอบรมของพนักงานทั้งหมด และมีจำนวนชั่วโมงการฝึกอบรมเฉลี่ยอยู่ที่ 14.54 ชั่วโมงต่อคนต่อปี โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมในตารางผลการดำเนินงาน ด้านบุคลากร และสังคม หน้า 62

ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย

ทีวีโอ ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยและอาชีวอนามัยทั้งต่อพนักงานและผู้มีส่วนได้เสีย โดยมี “นโยบายคุณภาพ อาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน” โดยประกาศนโยบายดังกล่าวในบริเวณโรงงาน พื้นที่ปฏิบัติงาน ภายในอาคารสำนักงานและบนเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อใช้เป็นแนวทางในการยึดถือปฏิบัติ ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยกำหนดให้ความปลอดภัยในการทำงานเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบในการปฏิบัติงานของพนักงานทุกคน

จากการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยข้างต้น ในรอบปี 2565 พบว่า อัตราการบาดเจ็บจากการทำงานรวม หรือ TRIR (Total Recordable Injuries Rate) ของพนักงานเท่ากับ 0.25 ซึ่งมีอัตราลดลงจากปีก่อนหน้า โดยในปี 2564 TRIR เท่ากับ 0.39 ซึ่งในปีนี้ค่า TRIR ของทีวีโอ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มอุตสาหกรรม Starch and vegetable fats and oil manufacturing (NAICS 311220) ซึ่งมีค่าเท่ากับ 1.0 ทั้งนี้ รายละเอียดเพิ่มเติมเปิดเผยในตารางผลการดำเนินงาน ข้อมูลด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย หน้า 66

นโยบายคุณภาพ อาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ดาวน์โหลด

การมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนและสังคม

ในปี 2565 ทีวีโอ ยังคงมุ่งมั่นดูแลชุมชนรอบข้าง ควบคู่ไปกับการดำเนินงานที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นโครงการที่มีส่วนดูแลสุขภาพอนามัยของผู้คน ควบคู่กับนโยบายสนับสนุนการสร้างงานให้ผู้คนในพื้นที่ ดังนั้นการดูแลชุมชนรอบโรงงานก็มีส่วนช่วยดูแลพนักงานและครอบครัวไปพร้อมกัน

กิจกรรมสานเสวนาและโครงการ CSR - DIW Continuous 2565

ทีวีโอเข้าร่วม โครงการส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน หรือ CSR - DIW Continuous 2565 โดยจัดกิจกรรมสานเสวนาร่วมกับชุมชนรอบโรงงานในรัศมี 5 กิโลเมตร เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาที่เป็นความต้องการของชุมชนด้วยทักษะความรู้หรือกระบวนทางธุรกิจของบริษัท ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากโรคระบาดใหม่สู่โรคประจำถิ่น วิถีชีวิตประจำวันเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทีวีโอจึงลงพื้นที่จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความรู้และฝึกอาชีพให้กับชุมชน รวมทั้งส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับชุมชน ผ่านการสนับสนุนในหลากหลายมิติ

ในปีนี้ เป็นการฝึกทำสาคูไส้หมู โดยทีวีโอสนับสนุนวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการทำกิจกรรม พร้อมทั้งส่งตัวแทนพนักงานเข้าไปมีส่วนร่่วมในการแบ่่งปันและถ่่ายทอดความรู้ให้ชาวบ้านในชุมชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำมันบริโภค และคุณสมบัติของน้ำมันพืชที่ใช้ประกอบอาหาร รวมทั้งให้คำแนะนำในการพัฒนาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ การจัดทำบัญชีครัวเรือน แนวทางการทำการตลาด และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ชุมชนนำไปต่อยอดสร้างอาชีพและพึ่งพาตนเองได้ โดยมีตัวแทนจากกลุ่มแม่บ้าน ผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้ และตัวแทนในชุมชน รวมกว่า 28 คน เข้าร่วมทำฝึกอบรมและนำกลับไปต่อยอดเป็นอาชีพเลี้ยงดูครอบครัว และเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมชุมชนพึ่งพาตนเอง สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน

โครงการส่งเสริมเส้นทางอาชีพสู่ชุมชน

โครงการส่งเสริมเส้นทางอาชีพสู่ชุมชนเป็นโครงการที่ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนชุมชนพึ่งพาตนเอง ให้ทุกครัวเรือนมีอาชีพ มีรายได้ และมีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับชุมชนในระยะยาว

ในปี 2565 ทีวีโอสานต่อโครงการส่งเสริมเส้นทางอาชีพสู่ชุมชนโดยมุ่งเน้นการเพิ่มพูนทักษะการประกอบอาหาร ซึ่งช่วยให้ผู้สูงอายุหรือผู้ที่ไม่มีรายได้ มีแนวทางในการประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้กับครอบครัว และยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อาทิ การสอนทำขนมจีนน้ำยาและน้ำพริก ไข่เค็ม น้ำพริกเผา ห่อหมกปลาช่อนสูตรโบราณ เม็ดขนุนและเผือกกวน โดยทีวีโอสนับสนุนวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการฝึกปรุงอาหารในแต่ละครั้งให้แก่ชาวบ้าน นับเป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับอย่างดี มีกลุ่มสตรีตำบลไทยาวาส กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร และชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมทำกิจกรรม จำนวนกว่า 141 คน โครงการนี้ช่วยให้ชาวบ้านเกิดการพัฒนาตนเอง นำความรู้และทักษะที่ได้จากการฝึกอบรมแต่ละครั้งไปประยุกต์เพื่อพัฒนาเป็นสูตรอาหารของตนเอง กลายเป็นอาชีพเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งในระยะยาว

โครงการ Caring & Sharing: แบ่งปันด้วยใจเพื่อสังคมไทยยั่งยืน

โครงการ Caring & Sharing เป็นกิจกรรมที่ทีวีโอดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาชุมชนและสังคม เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน โดยทีวีโอเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนทั้งด้านการศึกษาสู่เยาวชนที่ขาดแคลน ส่งเสริมด้านสุขภาวะของคนในชุมชนและสังคม ส่งเสริมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมกับประชาชนในชุมชน ในปี 2565 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ปรับเปลี่ยนสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ทีวีโอจึงกลับมาจัดกิจกรรมรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อเป็นการสนับสนุนชุมชนกลับมาดำเนินชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามเดิมในรูปวิถีปกติใหม่

กิจกรรมด้านความความยั่งยืน

การลดการใช้ทรัพยากร

ทีวีโอมุ่งมั่นพัฒนาบรรจุภัณฑ์ทั้งขวดน้ำมันพืช กล่องบรรจุภัณฑ์น้ำมันพืช รวมไปถึงถุงบรรจุภัณฑ์กลุ่มวัตถุดิบอาหารสัตว์ เพื่อสนับสนุนการเป้าหมายการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ระดับองค์กร โดยมีการปรับโฉมขวดน้ำมันพืชขนาด 1 ลิตร คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการพัฒนาให้ใช้เม็ดพลาสติกลดลง 4 กรัมต่อขวด แต่ยังคงมาตรฐานความแข็งแรงตามเดิม ทำให้สามารถช่วยลดปริมาณการใช้พลาสติกโดยรวมได้ถึง 350,000 กิโลกรัมต่อปี รวมถึงยกเลิกการใช้พลาสติกหุ้มฝาขวด (Cap Seal) ในผลิตภัณฑ์ขนาด 1 ลิตร ช่วยลดการใช้พลาสติกไปได้อีกกว่า 26,000 กิโลกรัม

นอกจากนี้ยังได้พัฒนากล่องบรรจุภัณฑ์น้ำมันพืชขนาด 1 ลิตร ลดความหนาของกล่องบรรจุภัณฑ์ ทำให้น้ำหนักเบาลง และเปลี่ยนมาใช้กระดาษรีไซเคิล ช่วยลดการใช้ทรัพยากร สามารถลดปริมาณการใช้กระดาษไปได้กว่า 70,400 กิโลกรัมต่อปี รวมถึงพัฒนาถุงบรรจุภัณฑ์กลุ่มวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ลดความหนาของผ้าทอเส้นกระสอบลงจาก 80 ไมครอน เป็น 60 ไมครอน ลดการใช้ทรัพยากรเส้นทอไปได้กว่า 12,517 กิโลกรัมต่อปี โดยยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานความแข็งแรง ความปลอดภัยด้านอาหารและสะดวกต่อการใช้งานตามเดิม

การจัดการขยะในองค์กร

ทีวีโอตระหนักถึงการบริโภคอย่างรับผิดชอบตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนการส่งมอบผลิตภัณฑ์จนถึงมือผู้บริโภค จึงได้จัดทำโครงการ “TVO รวมพลัง คืนชีวิต ขวดน้ำมัน” มีเป้าหมายเพื่อให้พนักงานทั้งในส่วนของสำนักงานใหญ่และโรงงานมีความรู้และความเข้าใจในเรื่องการจัดการขวดน้ำมันพืชใช้แล้วและขวดพลาสติก PET เพื่อรวบรวมนำเข้าสู่กระบวนการ รีไซเคิลอย่างถูกวิธี

จากการดำเนินงานในระยะแรกขวดที่เก็บรวบรวมได้ถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ “จานรองแก้ว” เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ผู้มีอุปการะคุณ

ทั้งนี้ในปี 2566 ทีวีโอได้ต่อยอดเป็น “โครงการ How to ทิ้ง แยกขยะก่อนทิ้ง ดีต่อเรา ดีต่อโลก” ด้วยหลักการ 3Rs (Reduce, Reuse, Recycle) การคัดแยกขยะอย่างถูกวิธีในสถานที่ทำงาน เพื่อยกระดับโครงการคัดแยกขวดไปสู่การคัดแยกขยะแบบครบวงจร โดยมุ่งหวังให้เกิดวัฒนธรรมการคัดแยกขยะแต่ละประเภทอย่างเหมาะสมตั้งแต่ต้นทาง โดยขวดพลาสติก PET ที่ได้จากโครงการได้เก็บรวบรวมนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น เสื้อยืดจากผ้ารีไซเคิล และถุงผ้า เป็นต้น

โครงการนี้นอกจากจะช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกด้วยการจัดการอย่างถูกวิธีตั้งแต่ต้นทางแล้ว ยังสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นของใช้ชิ้นใหม่จากวัสดุรีไซเคิล ช่วยลดปริมาณขยะและมีส่วนร่วมในการสร้างการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อีกด้วย

ส่งเสริมการมีส่วนกับชุมชน

ทีวีโอส่งเสริมเส้นทางอาชีพสู่ชุมชน

ทีวีโอส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยจัดทำโครงการ TVO ส่งเสริมอาชีพสู่ชุมชน ฝึกทักษะทำสบู่ซักล้างจากน้ำมันพืชใช้แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์และโทษของน้ำมันพืชใช้แล้ว และเสนอแนะแนวทางการนำน้ำมันพืชใช้แล้วมาสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกิดประโยชน์ โครงการนี้ยังมีประโยชน์ในการช่วยลดปริมาณขยะในครัวเรือนได้อีกทางหนึ่ง ขั้นตอนการทำสบู่จากน้ำมันพืชใช้แล้วมีวิธีการไม่ยุ่งยาก ผู้ที่สนใจทั่วไปสามารถทำตามได้เองที่บ้าน ถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ช่วยลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน อีกทั้งผู้ที่เข้าร่วมโครงการยังสามารถนำทักษะเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้เพื่อต่อยอดการสร้างอาชีพได้


“โครงการจานบิน Eco Flying” แปรรูปผักตบชวาเป็นภาชนะบรรจุอาหาร

ด้วยแนวคิดอนุรักษ์และฟื้นฟูแม่น้ำท่าจีนให้ใสสะอาด แก้ปัญหาวัชพืชผักตบชวาหนาแน่นกีดขวางเส้นทางจราจรทางน้ำ รวมทั้งมุ่งเน้นการสร้างสังคมพึ่งพาตนเองได้ของคนในชุมชนอย่างยั่งยืน ทีวีโอจับมือกับวิสาหกิจชุมชนเกาะลัดอีแท่น อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ร่วมดูแลแม่น้ำท่าจีน ในโครงการ “จานบิน ECO FLYING” ผ่านการสนับสนุนให้ตัวแทนชุมชนได้ศึกษาดูงาน ณ ศูนย์ฝึกมีชีวิต กศน. หนองน้ำใส อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งจัดเตรียมเครื่องจักร และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้เกิดแนวทางนำผักตบชวากลับมาสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นอีกครั้ง

โดยการนำ ใบ มาทำภาชนะรักษ์โลกสำหรับใส่อาหาร เพื่อจำหน่ายให้คาเฟ่หรือร้านอาหารในพื้นที่ ซึ่งภาชนะชนิดนี้สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติหลังการใช้งาน และทีวีโอมีแผนต่อยอดโครงการฯ เพื่อสนับสนุนการสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน ซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำแผนงานการแปรรูป ลำต้น ของผักตบชวาไปเป็นวัสดุกันกระแทก ซึ่งวัสดุกันกระแทกนี้จะถูกนำมาใช้แทนพลาสติกกันกระแทกเดิมในกล่องบรรจุสินค้าของทีวีโอในอนาคตอีกด้วย

โครงการนี้ถือเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนอีกทางหนึ่ง นับเป็นจุดเริ่มต้นของการดูแลสังคม สิ่งแวดล้อม และสร้างรายได้ให้กับชุมชน มีเป้าหมายหลักเพื่อให้บริษัทและชุมชนเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

สำนักงานใหญ่

149 ถนนรัชดาภิเษก (ท่าพระ-ตากสิน) แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพฯ 10600

โรงงาน

81/7 หมู่ 1 ตำบลไทยาวาส อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม 73120

ติดต่อเรา

+66 2 477 9020
info@tvothai.com