ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล [Privacy Notice] สำหรับคู่ค้า
บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน)
บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) “บริษัท”ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมาย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต บริษัทจึงจัดทำประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับคู่ค้า โดยบริษัทจะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากคู่ค้า เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของคู่ค้าเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าคู่ค้าจะได้รับความคุ้มครองสิทธิอย่างครบถ้วนตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท มีความจำเป็นในการเก็บ รวบรวม ใช้และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า จึงจัดทำประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับคู่ค้า เพื่อแจ้งรายละเอียดให้คู่ค้าทราบ บริษัทขอแนะนำให้คู่ค้าอ่านและทำความเข้าใจถึงประกาศดังกล่าว โดยมีรายละเอียดดังนี้
คำจำกัดความ
- คู่ค้า หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีนิติสัมพันธ์กับบริษัทที่เข้ามาเพื่อซื้อสินค้า ขายสินค้า ให้บริการ หรือรับจ้างทำของให้แก่บริษัท ตามสัญญาซื้อขาย สัญญาการให้บริการ สัญญาจ้างทำของ หรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัท เช่น ผู้ขาย ผู้ให้บริการ ผู้รับจ้าง หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยมีสถานะเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งกรรมการ ผู้แทน ผู้มีอำนาจทำการแทน ตัวแทน พนักงานหรือลูกจ้างของคู่ค้าที่เกี่ยวข้องกับนิติสัมพันธ์ดังกล่าว
- ข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เป็นผู้แทน ผู้มีอำนาจทำการแทนหรือตัวแทนที่ได้รับมอบหมายจากคู่ค้าที่เป็นนิติบุคคล รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้าง พนักงาน ผู้รับจ้าง ตัวแทนของคู่ค้า ที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเกี่ยวกับสัญญาหรือนิติกรรมใดๆกับบริษัท
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (Sensitive Personal Data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 26 ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล
วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า โดยจะกระทำโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังต่อไปนี้
- เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการเทียบราคา สอบราคา ต่อรองราคา การซื้อ การขาย การจัดซื้อจัดจ้าง และการคัดเลือกคู่ค้า เพื่อเข้าทำสัญญาซื้อขาย สัญญาการให้บริการ สัญญาจ้างทำของ หรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัท ระหว่างบริษัทและคู่ค้า
- เพื่อการตรวจสอบเอกสารหลักฐานผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้รับบริการ ผู้ให้บริการ ผู้ว่าจ้าง ผู้รับจ้างอันเกี่ยวข้องกับการติดต่อเข้าทำสัญญาหรือเจรจาทำสัญญา และการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัท
- เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขาย สัญญาการให้บริการ สัญญาจ้างทำของ หรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัท เช่น เพื่อการชำระราคา การจัดส่งสินค้า การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าเพื่อดำเนินการเกี่ยวเนื่องหลังการซื้อขาย การให้บริการ การจ้างทำของ เช่น การคืนสินค้า การรับประกัน
- เพื่อให้บริษัท สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่างๆตามที่กฎหมายกำหนด และเพื่อปฏิบัติตามระเบียบ ประกาศ หรือข้อบังคับที่ออกตามความในกฎหมาย และเพื่อการแจ้งข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ รวมทั้งเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของพนักงานเจ้าหน้าที่
- เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบภายใน การตรวจสอบทางการเงินและการบัญชี การตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกง การทุจริต หรือการกระทำผิดกฎหมาย รวมทั้งเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายอื่นของบริษัท
- การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าที่เข้ามาในพื้นที่หรือทรัพย์สินของบริษัท เพื่อติดต่อทางธุรกิจ เยี่ยมชมประสานงาน ฯลฯ เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของบริษัท
- การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น หากเป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ใดต้องได้รับความยินยอมจากคู่ค้า บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง และหากเป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทสามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าโดยไม่ต้องอาศัยความยินยอม ถือว่าบริษัทได้แจ้งรายละเอียดการประมวลผลให้เจ้าของข้อมูลทราบแล้วภายใต้ประกาศนี้
- ในกรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของคู่ค้าต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทแจ้งให้ท่านทราบตามประกาศฉบับนี้ ทั้งนี้ หากคู่ค้าไม่ประสงค์ให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล คู่ค้ามีสิทธิยกเลิกความยินยอม โดยติดต่อมายังบริษัทและบริษัทขอสงวนสิทธิในการพิจารณายกเลิกความยินยอมของคู่ค้าและดำเนินการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงจากคู่ค้า
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฎในสำเนาบัตรประชาชน เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ลายมือชื่อ
ตัวอย่างลายมือชื่อ สำเนาทะเบียนบ้าน บัญชีธนาคาร ภาพถ่าย สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวในบัตรประชาชน บริษัท ไม่มีนโยบายเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว โดยให้คู่ค้าขีดฆ่าหรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวได้
- ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามสำเนาทะเบียนบ้าน หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล
ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชั่น (Line ID) บัญชีเฟสบุ๊ก บัญชีอินสตาแกรม ช่องทางติดต่อในสื่อสังคมออนไลน์ที่ปรากฎในนามบัตร จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ แบบฟอร์ม เอกสารทางการค้าที่เกี่ยวข้องกับนิติสัมพันธ์กับบริษัท
- บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติผ่านช่องทางต่างๆ
ขึ้นอยู่กับการใช้งานหรือแนวปฏิบัติหรือการติดต่อระหว่างคู่ค้าและบริษัทฯ เช่น หากคู่ค้าใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท อาจมีการใช้คุกกี้ (Cookies) โดยบริษัทจะทำการแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมในนโยบายการใช้คุกกี้
- บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อคู่ค้าติดต่อสื่อสารกับบริษัท เช่น การบันทึกหรือถ่ายทอดการสนทนาผ่านระบบออนไลน์
หรืออิเล็คทรอนิกส์ หรือเมื่อเข้ามาติดต่อยังสถานที่ของบริษัทเช่น การบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด
- ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น เลขที่บัญชีธนาคาร ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฎในใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน
- ข้อมูลประกอบการทำสัญญาหรือนิติกรรมต่างๆ เช่น สำเนาหนังสือรับรองบริษัท สำเนาเอกสาร สำเนาหนังสือมอบอำนาจ
- บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลอื่นหรือแหล่งอื่น
- ข้อมูลสาธารณะที่สามารถหาได้หรือข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ
- ข้อมูลที่ได้รับจากพันธมิตรทางธุรกิจ
ข้อจำกัดในการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือเปิดเผย
- บริษัทจะใช้หรือเปิดเผยและแสดงข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น โดยบริษัทจะกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า หรือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องของบริษัท มิให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าให้แก่บุคคลภายนอกหรือบุคคลที่สามอย่างเคร่งครัด
- บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลหรือแสดงข้อมูล หรือทำให้ปรากฏในส่วนอื่นใดของข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เท่าที่ได้รับความยินยอมจากคู่ค้า บริษัทจะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าไว้เป็นความลับ เว้นแต่มีกฎหมายกำหนดให้เปิดเผย
ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้าตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งได้ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ระยะเวลาที่บริษัทยังมีความสัมพันธ์กับคู่ค้า และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมายหรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและระเบียบภายในของบริษัท
หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของบริษัท หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
สิทธิของคู่ค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
คู่ค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิต่างๆ ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
- สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทหรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้ให้ความยินยอม
- สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น
- สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการขอให้บริษัทดำเนินการลบหรือ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
- สิทธิในการขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- สิทธิในการขอถอนความยินยอมซึ่งได้ให้ไว้กับบริษัท ในการเก็บรวบรวม ประมวลผล ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
การติดต่อบริษัท
ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ที่
บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน)
เลขที่ 149 ถนนรัชดาภิเษก(ท่าพระ-ตากสิน) แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600
โทรศัพท์ : 02-4779020 ต่อ 580
อีเมล์ : phiratchai@tvothai.com
ทั้งนี้ บริษัทอาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ทราบผ่านช่องทาง www.tvothai.com โดยมีวันที่ของเวอร์ชั่นล่าสุดกำกับอยู่ตอนท้าย อย่างไรก็ดี บริษัทขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท
ประกาศ ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2565บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน)